วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Khao San Road ถนนข้าวสารที่ไม่ได้มีร้านขายข้าวสาร


ถ้าพูดถึงถนนข้าวสารแล้ว คนไทยหลายๆคนในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะถนนสายนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่รู้จักในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นถนนที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้จักและยังอยากที่จะมาสัมผัสแสงสีและบรรยากาศของถนนข้าวสาร ถนนสายเล็กๆแห่งนี้


            ถนนข้าวสาร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2435 ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระราชทานชื่อถนนตามเดิมว่า ถนนข้าวสาร ซึ่งเริ่มจากถนนหน้าวัดชนะสงคราม ตัดมาทางตะวันออกตามตรอกข้าวสาร แล้วสร้างสะพานข้ามคลองมาบรรจบกับถนนเฟื่องนคร ถนนข้าวสารอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับบางลำพู ซึ่งเรียกว่า ถิ่นขุนนางเดิมคือ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของบรรดาข้าราชบริภารในวังหน้า (กรมพระราชวังบวร) ที่ทำงานช่างวังหน้าและช่างฝีมือของโรงกษาปณ์เป็นส่วนใหญ่ มีฐานะดีถึงปานกลาง บริเวณใกล้เคียงแต่เดิมเป็นชุมชนมอญ มีเรือนแถวแห่งแรกของประเทศไทยที่ริมถนนตะนาว ซึ่งถนนข้าวสารยังมิได้มีบทบาทชัดเจนมากนัก เมื่อความเจริญเติบโตแบบตะวันตกเริ่มมีมากขึ้น ทำให้มีการวางผังเมืองเลียนแบบตะวันตกในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ มีการตัดถนนราชดำเนินจากสนามหลวง (ทุ่งพระสุเมรุ) ถึงพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นถนนสายหลัก เช่นเดียวกับถนนชองเอดิเซ่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตัดผ่านชุมชนในถนนตะนาว ถนนดินสอ มีการสร้างตึกถนน ทำให้ถนนใกล้เคียงต้องเถิบออกไป มีการวางผังอย่างเป็นแบบแผนมากขึ้น บริเวณบางลำพูและถนนข้าวสารก็ยังคงเป็นที่อยู่ของข้าราชบริภารและข้าราชการอยู่ ชาวมอญเริ่มลดน้องลง อาชีพหลักของคนย่านนี้ก็สืบเนื่องมาจากบรรพบุรุษ ทำงานโรงกษาปณ์ งานฝีมือ งานช่าง มีร้านค้าที่สำคัญเป็นร้านสังฆภัณฑ์ที่โด่งดังมากคือ ร้านส.ธรรมภักดี สินค้าที่บริเวณนี้ขายคือ ข้าวสาร ซึ่งคนขายเป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ จึงเรียกว่า ตรอกข้าวสารจนถึงทุกวันนี้






จากที่อยู่อาศัยกลายมาเป็นย่านการค้า ถนนข้าวสารเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในช่วงปีพุทศักราช 2525 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ความเป็นอยู่ของชุมชนข้าวสารเปลี่ยนแปลง เริ่มมีการเช่าเกสเฮาส์ในปี 2528 และมีชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นย่านบันเทิงราตรีที่สำคัญของกรุงเทพ สำหรับเกสเฮ้าส์ที่มีชื่อเสียงมาช้านานและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวประเภทแบกเป้ต่างประเทศเป็นอย่างดีจะมีอยู่ไม่กี่แห่ง ได้แก่ TOP GUEST HOUSE ที่ตั้งอยู่ข้างตรอกสวัสดี และ BONNY GUEST HOUSE ซึ่งเป็นเกสเฮ้าส์แห่งแรกของถนนข้าวสารที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 2528 เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกทีเดียวราคาค่าเช่าห้องค้างคืนตามเกสเฮ้าส์ต่างๆ จะถูกมาก ถูกกว่าไปพักตามโรงแรมหรูๆ คือราคาค่าห้องเริ่มตั้งแต่ 100 บาทไปจนถึง 500-600 บาทต่อวัน แต่ก็จะอยู่กันเป็นเดือนๆ แต่คิดค่าเช่าเป็นรายวัน ราคาที่ว่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละสถานที่ที่เปิดให้บริการ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีโรงแรมขนาดกลางมาเปิดเพิ่มมากขึ้น เช่น Buddy Botique Hotel ซึ่งค่าห้องจะมีราคาสูงกว่าเกสเฮ้าส์ทั่วไปอยู่ในระดับหลักสองพันบาทขึ้นไป 





นอกจากนี้ถนนข้าวสารยังเป็นที่ตั้งของร้านค้ามากมายที่เปิดทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งร้านขายของที่ระลึกของเมืองไทย ร้านเสื้อผ้า ร้านค้าแผงลอยต่างๆที่ขายของแบบไทยๆ ร้านน้ำปั่นและยังมีร้านอาหารต่างๆเช่นอาหารฝรั่งเศส อาหารอินเดีย อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาเลี่ยน และอาหารไทยยอดนิยมอย่างผัดไทย และปอเปี๊ยะ ซึ่งมีราคาที่ไม่แพงมากนักสามารถขายให้กับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พ่อค้าแม่ค้าต่างก็มีอัธยาศัยอันดีแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย  อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ใครหลายๆคนอยากจะมายังถนนข้าวสารแห่งนี้ก็คือ ช่วงที่มีเทศกาลสงกรานต์ เพราะว่าถนนข้าวสารถือเป็นอันดับต้นๆของถนนสายที่น่ามาเล่นสาดน้ำสงกรานต์มากที่สุด มีชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์กันที่ข้าวสารอย่างเนืองแน่นในทุกๆปี โดยการเล่นน้ำในถนนข้าวสารนี้จะห้ามเล่นแป้ง เพราะกลัวว่าจะเกิดการลวนลามผู้หญิงขึ้น ซึ่งถือว่าดีและปลอดภัยมาก หากจะมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนแห่งนี้ อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูแลความเรียบร้อยอยู่ตลอดด้วย จึงทำให้ถนนข้าวสารเป็นสถานที่ที่ไม่ควรจะพลาดเลยในช่วงเทศกาลสงกรานต์  นอกจากการเล่นสาดน้ำเป็นปกติแล้ว ก็ยังมีทั้งการจัดกิจกรรม มีเวทีการแสดง มีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนจัดกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานมากยิ่งขึ้นแก่นักท่องเที่ยว เช่น มีปาร์ตี้โฟม มีดีเจมาคอยเปิดแผ่นเสียงสร้างบรรยากาศคึกคัก



ถนนข้าวสารถือเป็นถนนแห่งการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครเลยก็ว่าได้ อย่างน้อยๆนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไทยได้มาเยี่ยมเยียนเมืองไทยก็จะต้องได้มาสัมผัสบรรยากาศแสงสี เสียงของถนนข้าวสารแห่งนี้ ซึ่งบางครั้งรู้สึกเหมือนว่ากำลังเดินอยู่ที่ถนนแถวเมืองพัทยาเลยทีเดียว เนื่องจากมีบาร์ข้างทางทั้งสองฝั่งถนน มีอาหารทะเลขาย มีเพลงเปิดคลอเบาๆ มีบางร้านที่มีนักดนตรีโฟลค์ซองออกมาเล่น มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลากหลายเชื้อชาติผสมกับคนไทยที่มาเดินเล่น  




หลายๆคนอาจจะดูภาพลักษณ์ของถนนข้าวสารว่าเป็นถนนแห่งอบายมุขแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย ที่ถนนแห่งนี้เราสามารถที่จะสร้างมิตรภาพใหม่ๆกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ สามารถที่จะมาเลือกซื้อเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆ  หาอาหารอร่อยๆรับประทานกับครอบครัว เพราะถนนแห่งนี้ไม่ใช่ถนนที่มีไว้เพื่อชาวต่างชาติเพียงอย่างเดียว แค่เพียงลองไปสัมผัสบรรยากาศที่โดยรอบตัวเรามีแต่เพื่อนใหม่ๆที่เดินทางมาจากอีกประเทศนึง อีกทวีป หรืออีกฝากหนึ่งของโลกเรา  มีความสุขกับแสงสีที่ไม่ได้เจือปนมันกับอบายมุขมากนัก หรือลองไปปรับเฟรมปรับมุมกล้องเล่นๆ ถ่ายรูปสวยๆที่ถนนแห่งนี้ ถนนที่สงบในเวลากลางวันและมีชีวิตชีวาในเวลากลางคืน ถนนข้าวสาร



แหล่งข้อมูลอ้างอิง: http://www.thapra.lib.su.ac.th/ratanagosin/community11.htm
แหล่งที่ีมาของภาพ: http://www.myplacesinthailand.com/places-in-bangkok/place/nightlife-khao-san-road-bangkok/
http://www.panoramio.com/photo/455923
http://asiaplacestosee.com/songkran-the-water-festival-bangkok/
http://www.bangkok.com/area-khao-san-road/







            


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ตลาดบางเชือกหนัง (ชุมชนพูนบำเพ็ญ) Bangcheuknhang Market.

แหล่งที่มา: http://www.weekendhobby.com/mtb/web/question.asp?id=2190

ตลาดน้ำในสวน คลองบางเชือกหนังหรือตลาดบางเชือกหนังนั้น ตั้งอยู่ในซอยบางแวก116  ชุมชนพูนบำเพ็ญ แต่ก่อนนั้นช่วงประมาณปี2552 ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่คึกครื้นมีพ่อค่าแม่ค้านำสินค้ามาจำหน่ายหลากหลาย แต่หลังจากเกิดวิกฤตการน้ำท่วม ทำให้การค้าขายในตลาดซบเซาลงไป ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไป จึงทำให้ในปัจจุบันนั้นเหลือร้านค้าเพียงแค่ไม่กี่ร้านเท่านั้น





ภาพความคึกครื้นในอดีต แหล่งที่มา : http://www.weekendhobby.com/mtb/web/question.asp?id=2190
ถ่ายเมื่อปี 2552

ป้ายบอกทางเดินไปยังตลาดในส่วนที่ 2

ส่วนของตลาดที่ยังคงอยู่นั้นได้แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่สองนั้นจะจัดอยู่ในสวนและมีความร่มรื่นมากมีลานจัดกิจกรรมสำหรับเด็กๆ อย่างลานกิจกรรมฟันน้ำนมและศาลาดนตรีในสวน เพื่อให้เด็กๆได้มาเรียนรู้การเล่นดนตรีไทย




แผ่นป้ายแนะนำชุมชนตกแต่งอยู่ในส่วนที่2ของตลาด

ถึงแม้ว่าร้านค้าจะลดลงไปแต่ด้วยความเข้มแข็งของชุมชนก็ยังได้มีการสร้างลานจัดกิจกรรมให้แก่เด็กๆในชุมชนเพื่อสร้างให้เป็นหนึ่งในกำลังที่เข้มแข็งของชุมชนเพื่อนที่เติบโตขึ้นมาพวกเค้าจะได้เห็นความสำคัญของชุมชนและพัฒนาชุมชนของตัวเอง







ในขณะนี้ชุมชนก็ได้มีการกำหนดแนวทางการพัฒนาตลาดให้กลับมาครึกครื้นเช่นเดิมอยู่ ซึ่งก็ต้องอาศัยทั้งระยะเวลา จำนวนบุคคลากรและปัจจัยทางด้านอื่นๆอีกมาก แต่ก็ได้หวังว่าตลาดที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้จะสามารถกลับมาสร้างความสนใจและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวที่ตลาดแห่งนี้อีกครั้ง 





เด็กๆในชุมชนและระแวกใกล้เคียงที่จะเข้ามาทำกิจกรรมในวันเสาร์และอาทิตย์


ต้นไม้สูงดอกสีสวยภายในชุมชน :)

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

KAT-TUN Gathering ❤

ดูคอนเชนในโรงหนังสนุกมากกก
แถมมีตติ้งอาคาเมะเล็กๆณ.สเว่นเซ่น

ได้สนุกกับพี่ๆที่พึ่งรู้จัก~ New bond,,